ยาสูบ เปิดกรุประมูลที่ดิน 4 ทำเลทอง ดึงเอกชนเช่าพัฒนาโครงการ จับตาแปลงเด็ด ‘เจริญกรุง’

ยาสูบ เปิดกรุประมูลที่ดิน 4 ทำเลทอง ดึงเอกชนเช่าพัฒนาโครงการ จับตาแปลงเด็ด ‘เจริญกรุง’

วันที่ 13 สิงหาคม น.ส.นันทกา มารักษ์กุล หัวหน้าสำนักบริหารทรัพย์สิน การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ปี 2568-2569 กยท.จะนำที่ดินในกรุงเทพและต่างจังหวัด เปิดให้เอกชนที่สนใจเช่าระยะยาว 10-30 ปี เพื่อจัดหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ 4 โครงการ

1.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จ.เชียงราย เนื้อที่กว่า 2 ไร่ อยู่ใจกลางเมืองเชียงราย ติดถนนคนเดิน พัฒนาเชิงสร้างสรรค์ เพื่อชุมชนและสังคม ให้เช่า 10 ปี มีค่าเช่ารวม 26 ล้านบาท หลังปิดขายซองวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเอกชนสนใจหลายราย

2.ที่ดินอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เนื้อที่กว่า 4 ไร่ ใกล้รถไฟทางคู่สถานีบ้านไผ่ ให้เช่า 30 ปี มีค่าเช่ารวม 35 ล้านบาท พัฒนาได้ทั้งโรงแรม อพาร์ตเมนต์ สถานีบริการน้ำมัน และมอลล์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) ยสท.อนุมัติ คาดเปิดขายซองปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายนนี้

3.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างย่านคลองเตย เนื้อที่กว่า 2 ไร่ ปัจจุบันเป็นสนามแบดมินตันและเทนนิส เพื่อเป็นสวัสดิการให้พนักงาน จะเปิดให้เอกชนเช่าปรับปรุงเพิ่มเติมเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์และลานกีฬากลางแจ้ง มีสนามเทนนิส แบดมินตัน พิกเกิลบอลและพาเดล ให้เช่า 10 ปี อยู่ระหว่างประเมินราคา คาดขายซองเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้

4.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างย่านเจริญกรุง เป็นที่ดินแปลงประวัติศาสตร์ เพราะเป็นโรงงานผลิตยาสูบแห่งแรกของประเทศ เนื้อที่กว่า 5 ไร่ อยู่ในซอยเจริญกรุง 80 ใกล้เอเชียทีคจะเปิดให้เช่า 10 ปี พัฒนาเชิงอนุรักษ์และการบริหารที่ดินเชิงพาณิชย์ โดยสามารถพัฒนาอาคารสูงได้ เนื่องจากยังมีพื้นที่ว่างอยู่ด้านหลัง ขณะที่อาคารด้านหน้าต้องพัฒนาเชิงอนุรักษ์ตามที่กรมศิลปากรกำหนดและต้องขออนุญาตกรมศิลปากรก่อนถึงจะพัฒนาได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความเห็นนักลงทุน จะเปิดขายซองวันที่ 1-30 ตุลาคมและเปิดให้ยื่นซองประมูลวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568

นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาโครงการ กล่าวเสริมว่า ที่ดินย่านเจริญกรุง มีศักยภาพ อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถพัฒนาเป็นอาคารขนาดใหญ่ได้ โดยลักษณะของพื้นที่เหมาะพัฒนาเป็นโรงแรม 5-6 ดาว สร้างสูงได้มากกว่า 30 ชั้น คาดว่ามีบริษัทขนาดใหญ่หลายธุรกิจให้ความสนใจ เช่น อสังหาริมทรัพย์เชิงท่องเที่ยว โรงแรม ค้าปลีก เป็นต้น แต่เนื่องจากเป็นที่ดินใจกลางเมือง การลงทุนอาจจะสูง ทางภาคเอกชนมองว่าการเช่า 10 ปี อาจจะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน อยากให้ขยายเวลาเช่าเป็นระยะยาวมากขึ้น เช่น มากกว่า 50 ปี อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นโครงการและสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่ค่อยเอื้อมากนัก จึงมองว่าช่วงแรกน่าจะเริ่มต้นที่ 10 ปีก่อน จากนั้นสามารถขยายระยะเวลาภายหลังได้

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/economy/news_5321765#goog_rewarded