การเวนคืนที่ดินต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

เวนคินที่ดิน 2

ข่าวโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า หรือทางด่วน ย่อมสร้างความรู้สึกกังวลและไม่แน่นอนให้กับเจ้าของที่ดินที่อยู่ในแนวเขตโครงการ ความกังวลเหล่านี้สะท้อนถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจริง ตั้งแต่คำถามที่หลั่งไหล “จะโดนยึดที่ไปเลยโดยไม่ได้เงินค่าเวนคืนหรือไม่?” ไปจนถึงความทุกข์ใจของชาวบ้านที่เกรงว่าการสูญเสียที่ดินทำกินจะทำให้ชีวิตลำบาก และที่ดินส่วนที่เหลืออาจกลายเป็นที่ตาบอดที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม แม้การเวนคืนจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่กฎหมายปัจจุบัน โดยเฉพาะพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 ได้มอบสิทธิประโยชน์ที่เป็นธรรมและน่าสนใจแก่ผู้ถูกเวนคืนมากกว่าที่หลายคนเข้าใจ บทความนี้จะเปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับสิทธิที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อเปลี่ยนความรู้สึกกังวลให้กลายเป็นการเตรียมพร้อมรับมืออย่างมีข้อมูล

เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อ! วิธีตรวจสอบ “แนวเวนคืน” ง่ายๆ ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์ ThaiValuer

ที่ดินที่เรากำลังจะซื้อ หรือบ้านที่เราอาศัยอยู่ อยู่ในข่ายที่จะโดน “เวนคืน” เพื่อทำถนนหรือโครงการรัฐหรือไม่? ThaiValuer ที่จะช่วยให้คุณตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองผ่านระบบแผนที่ออนไลน์ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

เข้าสู่ระบบแผนที่ คลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ https://thaivaluer.com/mapgis/map/ คุณจะพบกับหน้าต่างแผนที่ประเทศไทยขนาดใหญ่

หน้าเว็บไซต์ thaivaluer

1. คลิกที่ Google Terrain ซึ่งอยู่บนมุมขวามือถัดจากช่องค้นหาด้วยชื่อสถานที่

คลิกที่ Google Terrain

2. หน้าต่าง Google Terrain ปรากฎขึ้นมา 

3. คลิกหัวข้อที่ ข้อจำกัด/กฎหมาย/คมนาคม

4. คลิกหัวข้อที่ แนวเวนคืน

ขั้นตอนการเรียกดูเส้นแนวเวนคืน

5. สังเกต “เส้นสี” และ “สัญลักษณ์”
เมื่อหน้าจอซูมไปยังตำแหน่งที่ดินที่ต้องการแล้ว ให้สังเกตเส้นสีต่างๆ ที่ปรากฏบนแผนที่ โดยเส้นทึบสีแดง/สีส้ม มักแสดงถึงแนวเขตทาง หรือแนวเวนคืนที่วางแผนไว้ ดังภาพ

6. ตรวจสอบรายละเอียด หากพบว่ามีเส้นพาดผ่าน หรืออยู่ในระยะประชิด ให้ลองคลิกที่เส้นหรือพื้นที่นั้น ระบบอาจแสดงรายละเอียดเบื้องต้นว่าเป็นโครงการอะไร หรือกฎหมายฉบับไหน เพื่อให้คุณนำข้อมูลไปตรวจสอบต่อกับหน่วยงานราชการได้แม่นยำขึ้น

การตรวจสอบผ่านเว็บไซต์เป็นเพียงการ “คัดกรองเบื้องต้น” เท่านั้น หากพบว่าที่ดินของคุณอยู่ในแนวเสี่ยง หรือไม่แน่ใจในข้อมูล แนะนำให้เช็กซ้ำกับ กรมที่ดิน หรือ หน่วยงานเจ้าของโครงการ (เช่น กรมทางหลวง, การทางพิเศษฯ) อีกครั้งเพื่อความถูกต้อง 100% ก่อนตัดสินใจทำธุรกรรมใดๆ

5 สิ่งที่ต้องทำทันที! เมื่อรู้ว่าที่ดินอยู่ใน "แนวเวนคืน"

1. ข้อมูลในเว็บไซต์เป็นเพียงแผนที่เบื้องต้น อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ให้คุณนำเลขโฉนดไปตรวจสอบกับหน่วยงานเจ้าของโครงการนั้นๆ โดยตรง (เช่น กรมทางหลวง, การทางพิเศษฯ หรือ รฟม.) เพื่อยืนยันว่าที่ดินของเราโดนเวนคืน “ทั้งหมด” หรือแค่ “บางส่วน” และโครงการจะเริ่มเมื่อไหร่

2. เตรียมเอกสารสิทธิ์ให้พร้อม รวบรวมเอกสารสำคัญไว้ในที่เดียวกัน ได้แก่ โฉนดที่ดิน, ทะเบียนบ้าน, บัตรประชาชน และเอกสารการก่อสร้างต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์และการประเมินราคา

3. ร่วมมือในการ “รังวัด” และ “สำรวจ” เมื่อมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาสำรวจทรัพย์สิน ขั้นตอนนี้สำคัญมาก! คุณควรนำชี้เขตและทรัพย์สินทุกอย่างที่มีค่าบนที่ดิน ไม่ว่าจะเป็น ตัวบ้าน, รั้ว, โรงเรือน หรือแม้แต่ “ต้นไม้ยืนต้น” เพราะทุกอย่างนำมาคำนวณเป็นค่าชดเชยได้ทั้งหมด ตรวจสอบรายการบันทึกของเจ้าหน้าที่ให้ละเอียดก่อนเซ็นชื่อ

4. ตรวจสอบยอดเงินค่าชดเชย เมื่อมีการประกาศราคาค่าทดแทน ให้พิจารณาดูว่าราคาที่ได้รับนั้นเป็นธรรมหรือไม่ โดยเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบัน หรือราคาประเมินที่ควรจะเป็น

5. ยื่น “อุทธรณ์” หากราคาไม่เป็นธรรม นี่คือสิทธิ์ที่คุณต้องรู้! หากคุณรู้สึกว่าค่าชดเชยต่ำเกินไป หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม คุณมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 60 วัน (หรือตามที่กฎหมายกำหนด) นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง การนิ่งเฉยอาจถือว่าคุณยอมรับราคานั้นไปโดยปริยาย

ที่ดินที่เหลืออยู่ อาจทำให้เงินทดแทนของคุณ "เพิ่มขึ้น" หรือ "ลดลง" ก็ได้

หลายคนอาจเข้าใจว่าเงินทดแทนจะคิดจากมูลค่าที่ดินที่ถูกเวนคืนไปเท่านั้น แต่หลักการตามมาตรา 22 ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดหลักการคำนวณที่น่าสนใจ โดยนำมูลค่าของ “ที่ดินส่วนที่เหลือ” หลังการเวนคืนมาพิจารณาด้วย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อจำนวนเงินค่าทดแทนที่คุณจะได้รับ

• กรณีที่ดินราคาลดลง: หากโครงการของรัฐทำให้ที่ดินส่วนที่เหลือของคุณด้อยค่าลง เช่น กลายเป็นที่ดินใต้ทางยกระดับ, รูปทรงที่ดินเปลี่ยนไปจนใช้งานได้ยาก (เช่น จากสี่เหลี่ยมกลายเป็นสามเหลี่ยม), ที่ดินถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน, หรือเปลี่ยนสภาพจากที่ดินติดถนนสายหลักเป็นถนนสายรองทำให้การเข้า-ออกลำบากกว่าเดิม ในกรณีเช่นนี้ กฎหมายกำหนดให้คุณต้องได้รับเงินค่าทดแทนสำหรับราคาที่ดินส่วนที่เหลือที่ลดลงนั้นเพิ่มเติมด้วย

• กรณีที่ดินราคาสูงขึ้น: ในทางกลับกัน หากโครงการของรัฐทำให้ที่ดินส่วนที่เหลือของคุณมีทำเลดีขึ้นอย่างชัดเจน เช่น จากเดิมเป็นที่ดินตาบอดกลายเป็นที่ดินติดถนนใหญ่ เงินค่าทดแทนที่คุณจะได้รับอาจถูกหักออกตามมูลค่าที่ดินที่สูงขึ้นนั้น อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้กำหนดเพดานไว้ว่าจะหักเงินค่าทดแทนได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินค่าทดแทนที่ดินส่วนที่ถูกเวนคืน

หลักการนี้สะท้อนความพยายามของกฎหมายที่จะสร้างความเป็นธรรม โดยพิจารณาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงทั้งในแง่บวกและแง่ลบต่อทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของประชาชน ดังนั้น เจ้าของที่ดินจึงไม่ควรประเมินเพียงมูลค่าที่ดินส่วนที่ถูกเวนคืน แต่ควรเตรียมการประเมินมูลค่า “ที่ดินส่วนที่เหลือ” อย่างเป็นอิสระ เพื่อสร้างข้อต่อรองที่หนักแน่นในการขอรับเงินชดเชยเพิ่มเติมจากมูลค่าที่ลดลง

ถูกเวนคืนไม่หมด? คุณมีสิทธิ์ขอให้รัฐ “ซื้อส่วนที่เหลือ” หากใช้ประโยชน์ไม่ได้

หนึ่งในความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของผู้ถูกเวนคืนที่ดินบางส่วน คือชะตากรรมของที่ดินแปลงเล็กๆ ที่เหลืออยู่ ดังที่ชาวบ้านในพื้นที่โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์เคยสะท้อนความกังวลว่า “ที่ดินส่วนที่เหลือจะกลายเป็นที่ตาบอด ไม่สามารถเข้าออกได้” ปัญหานี้มีทางออกทางกฎหมายที่ชัดเจนในมาตรา 34 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 ซึ่งมอบสิทธิ์ให้เจ้าของที่ดินสามารถร้องขอให้หน่วยงานของรัฐ “ซื้อที่ดินส่วนที่เหลือ” นั้นได้

ตามกฎหมาย เจ้าของที่ดินมีสิทธิ์ร้องขอให้รัฐซื้อที่ดินส่วนที่เหลือ หากที่ดินนั้นมีเนื้อที่น้อยกว่า 25 ตารางวา หรือมีด้านใดด้านหนึ่งยาวน้อยกว่า 5 วา แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น แม้ที่ดินจะมีขนาดใหญ่กว่าเกณฑ์ดังกล่าว กฎหมายยังให้สิทธิ์ร้องขอได้ หากที่ดินที่เหลืออยู่นั้นไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยหรือไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ บทบัญญัตินี้ถือเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่ทรงพลังสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เป็นการป้องกันไม่ให้ต้องจำใจอยู่กับที่ดินที่ไร้ประโยชน์ หรือมีสภาพไม่เหมาะสมกับการใช้งานอีกต่อไป ถือเป็นการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและตรงจุด

เวนคินที่ดิน

เงินทดแทนไม่ได้มีแค่ “ราคาที่ดิน” แต่รวมถึงค่ารื้อถอนและค่าเสียหายอื่นๆ

เงินค่าทดแทนจากการเวนคืนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ราคาประเมินของที่ดินเท่านั้น แต่กฎหมายได้มองอย่างรอบด้านถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ถูกเวนคืน ตามมาตรา 37 พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 องค์ประกอบของเงินค่าทดแทนนั้นมีความครอบคลุมและแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเป็นการเวนคืนเฉพาะที่ดิน หรือรวมถึงโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างด้วย โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้

• ค่าที่ดิน ที่ถูกเวนคืน
• ค่าโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่มีอยู่ในที่ดินนั้น
• ค่ารื้อถอนและค่าขนย้าย
• ค่าเสียหายอื่นๆ อันเกิดจากการที่ต้องย้ายออกจากอสังหาริมทรัพย์นั้น
 
การแจกแจงองค์ประกอบของเงินค่าทดแทนเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่ากฎหมายปัจจุบันพยายามชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน ไม่ได้มองว่าการเวนคืนเป็นเพียงการซื้อขายที่ดิน แต่เป็นการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของผู้คนด้วย

รัฐเอาไปแล้วไม่ได้ใช้? เจ้าของเดิมหรือทายาท “ขอคืนได้”

นี่คือหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่คนส่วนใหญ่แทบไม่เคยรู้มาก่อน แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ ตามมาตรา 51 และ 53 ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 ได้กำหนดกลไกให้เจ้าของเดิมหรือทายาทสามารถ “ขอคืน” อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนไปได้
สิทธิในการขอคืนที่ดินจะเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:
1. หากรัฐไม่เริ่มใช้ที่ดินตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่การเวนคืนมีผลบังคับใช้ หรือ
2. หากมีที่ดินเหลือจากการใช้ประโยชน์ หลังจากโครงการเสร็จสิ้นและไม่มีความจำเป็นต้องใช้เพื่อวัตถุประสงค์นั้นอีกต่อไป
หากเข้าเงื่อนไขดังกล่าว เจ้าของเดิมหรือทายาทจะต้องยื่นคำร้องขอคืนภายใน 3 ปี นับจากวันที่ครบกำหนดเวลาข้างต้น โดยผู้ที่ขอคืนที่ดินจะต้องคืนเงินค่าทดแทนที่เคยได้รับไป พร้อมดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด สิทธินี้เป็นกลไกที่ทรงพลังในการสร้างความโปร่งใสและรับผิดชอบในการใช้อำนาจเวนคืนของรัฐ เพื่อให้แน่ใจว่าการนำที่ดินของประชาชนไปใช้นั้นเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง และป้องกันไม่ให้ที่ดินถูกทิ้งร้างโดยเปล่าประโยชน์หลังจากถูกเวนคืนไปแล้ว
 
ที่มา: 
Thai Valuer. (ม.ป.ป.). บริการหรือระบบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย.         https://thaivaluer.com/mapgis/map/
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562. (2562). การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย.         https://www.mrta.co.th/th/act/1897
 
บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความด้านอสังหาริมทรัพย์

“วิกฤตทุก 10 ปี” ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ: ถอดรหัสวัฏจักรอสังหาฯ ไทย​

หัวใจสำคัญของการไขปริศนานี้อยู่ที่การทำความเข้าใจในสิ่งที่เราเรียกว่า "วัฏจักรอสังหาริมทรัพย์" (Property Cycle) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดและสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าคนส่วนใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์

บทความด้านอสังหาริมทรัพย์

เจาะลึก “การประเมินสังหาริมทรัพย์” คืออะไร? ​

เจาะลึก "การประเมินสังหาริมทรัพย์" คืออะไร? ครอบคลุมการประเมินเครื่องจักรและโซลาร์เซลล์ เพื่อธุรกิจยุคใหม่

บทความด้านอสังหาริมทรัพย์

ต้นไม้มีค่า อย่าเพิ่งตัด! เจาะลึก “การประเมินต้นไม้” สู่ “คาร์บอนเครดิต” สินทรัพย์สีเขียวที่สร้างรายได้

คุณเคยสงสัยไหมว่าต้นไม้ใหญ่ในที่ดินของคุณ หรือสวนป่าที่ดูแลมานานหลายปี มีมูลค่าเท่าไหร่?

บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

ห้อง B302 ชั้น 3 ดิอัพ พระราม 3 คอมมูนิตี้มอลล์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

Contact us

OPENING HOURS

Join us

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารด้านการประเมินทรัพย์สิน คอร์สเรียนล่าสุด และข้อมูลสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์กับโมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอลซัลแตนท์